ขจัดความรกรุงรังในบ้าน ด้วยฮวงจุ้ย (ตอนที่ 5)

ความรกรุงรังส่งผลต่อคุณอย่างไร


คนส่วนมาก ไม่รู้ว่าความรกรุงรังส่งผลต่อพวกเขามากแค่ไหน คุณอาจหลงงคิดว่าข้าวของของคุณมีค่า หรืออย่างน้อยที่สุดก็คิดว่า อาจจะมีค่าหลังจากคุณจัดเก็บเรียบร้อย แต่คุณจะตระหนักได้ว่า ตัวเองรู้สึกดีแค่ไหนที่ไม่มีของเหล่านั้น ก็ต่อเมื่อคุณเริ่มลงมือกำจัดมันแล้วจริง ๆ

ความรกรุงรังจะส่งผลต่อคุณตามลักษณะนิสัยของคุณ ตามปริมาณสิ่งของที่คุณมี และตามบริเวณและระยะเวลาที่คุณเก็บมันไว้ นี่คือผลกระทบหลัก ๆ ที่คุณควรระวัง

ความรกรุงรังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและเฉื่อยชา

ผู้คนส่วนมากที่มีบ้านช่องรกรุงรังกล่าวว่า พวกเขาไม่มีแรงที่จะเริ่มลงมือทำความสะอาดและรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอด แต่อันที่จริงพลังงานหยุดนิ่งที่อยู่รอบ ๆ สิ่งของรกรุงรังนั้นจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยอ่อนและเฉื่อยชา การขจัดมันไปจะทำให้พลังงานในบ้านคุณไหลเวียนได้อย่างสะดวก และปลดปล่อยพลังกายและใจของคุณออกมา



นี่คือสิ่งที่มีคนบอกฉันมา
"ฉันอ่านหนังสือของคุณรจนดึก และ"ว้าวุ่นใจ"มากจนนอนไม่หลับ ในที่สุดฉันก็ต้องลุกจากเตียงและโละข้าวของรกรุงรังของตัวเองจนถึงตีสี่ ! เช้าวันนั้นฉันต้องไปทำงานต่อ แต่ฉันไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดเดียว"

"ฉันเคยเป็นพวกชอบนั่งเฝ้าทีวี ทุกคืนหลังเลิกงานฉันจะกลับบ้านมานั่งหน้าโทรทัศน์ "โดยอัตโนมัติ" แต่หลังจากขจัดความรกรุงรังครั้งใหญ่ ฉันพบว่าโทรทัศน์แทบไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันเลย จึงโยนมันทิ้งไป ตอนนี้ฉันสนใจอะไรใหม่ ๆ หลายอย่างเสียจนไม่มีเวลาดูมันอีก"

"ตอนแรกฉันรู้สึกหวั่นใจมาก เมื่อเห็นปริมาณขยะในบ้าน แต่ฉันก็รู้ว่าต้องกำจัดมัน สิ่งที่ฉันทึ่งมากคือ ฉันรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากทำความสะอาดลิ้นชักชั้นแล้วชั้นเล่า แถมยังมีพลังจากไหนไม่รู้ มากระตุ้นให้ฉันทำต่อไปเรื่อย ๆ"

ความรกรุงรังทำให้คุณจมอยู่กับอดีต

เมื่อพื้นที่ทั้งหมดในบ้านมีแต่ความรกรุงรัง จึงไม่มีที่ว่างพอให้สิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตคุณ คุณจะจมอยู่กับเรื่องในอดีต และรู้สึกวุ่นวายใจกับปัญหาที่ตามหลอกหลอนคุณมาระยะหนึ่ง คุณมีแนวโน้มที่ว่าจะมองย้อนไปในอดีตมากกว่ามองไปยังอนาคต คุณจะโทษเรื่องในอดีตว่าเป็นสาเหตุทำให้คุณเป็นอย่างที่เป็นในปัจจุบัน แทนที่จะเริ่มรับผิดชอบต่อตนเองเพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้น การขจัดความรกรุงรังจะช่วยทำให้คุณเริ่มรับมือกับปัญหา และเดินหน้าต่อไป คุณต้องปล่อยวางอดีตเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น

ความรกรุงรังทำให้ร่างกายของคุณอึดอัด

เมื่อคุณมีสิ่งของรกรุงรังมาก พลังงานบ้านของคุณจะแออัดเช่นเดียวกับร่างกายของคุณ

ผู้คนที่ปล่อยให้บ้านรกรุงรังมักออกกำลังกายไม่เพียงพอ ท้องผูกเป็นประจำ ผิวพรรณหมองคล้ำ รูขุมขนอุดตัน และแววตาไร้ชีวิตชีวา ส่วนคนที่มีความรกรุงรังในชีวิตเพียงเล็กน้อยจะกระตือรือร้นมากกว่า ผิวเปล่งปลั่งสดใส และมีประกายในแววตา คุณเลือกเองก็แล้วกันว่าอยากเป็นแบบไหน

ความรกรุงรังส่งผลต่อน้ำหนักตัวของคุณ

ความจริงอันหน้าสงสัยที่ฉันสังเกตเห็นตลอดหลายปีที่ผ่านมาคือ คนส่วนมากที่บ้านช่องรกรุงรังมักจะมีน้ำหนักตัวเกิน ฉันเชื่อเช่นนี้ เพราะทั้งไขมันในร่างกายและความรกรุงรัง เป็นรูปแบบของกลไกการป้องกันตนเอง คุณสร้างชั้นไขมันหรือความรกรุงรังรอบ ๆ ตัวเพื่อเป็นเกราะป้องกันเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในชีวิต โดยเฉพาะอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ที่คุณรับมือไม่ไหว มันทำให้คุณเกิดภาพลวงตาว่าคุณควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ และสามารถป้องกันไม่ให้มันส่งผลต่อคุณมากจนเกินไป แต่มันก็เป็นแค่ภาพลวงตา อย่างที่โอปราห์ วินฟรีย์ เคยกล่าวไว้ว่า

"สิ่งที่ฉันเรียนรู้จากการต่อสู้กับปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินมานานสิบสามปีคือ คุณไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงร่างกายภายนอกได้จนกว่าคุณจะจัดการกับสิ่งที่ดีงรั้งคุณไว้ภายใน สิ่งที่ทำให้ชีวิตเราไม่เดินหน้าคือความหวาดกลัวที่รั้งเราเอาไว้ คือสิ่งต่าง ๆ ที่ขัดขวางไม่ให้เราเป็นอย่างที่เราควรจะเป็น"

ฉันได้เรียนรู้ว่าคนที่มีน้ำหนักเกิน มักมีความกลัวหลายประการฝังลึกอยู่ในใจอย่างว่าจริง ๆ พวกเขาต้องเอาชนะมันให้ได้ก่อนจะจัดการกับความรกรุงรัง อย่างไรก็ตาม หลายคนเขียนจดหมายเข้ามาเล่าให้ฉันฟังว่า รู้สึกเป็นอิสระขึ้นมากเมื่อในที่สุดก็ได้ลงมือทำ และพบว่ากระบวนการกำจัดขยะช่วยให้พวกเขากำจัดไขมันออกจากตัวเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขายังบอกด้วยว่า ความมุ่งมั่นที่จะลดขยะในบ้านนั้นง่ายกว่าการตั้งใจจะลดน้ำหนักตัวเองมาก และเมื่อพวกเขาเริ่มใส่ใจสภาพแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น พวกเขาจะรู้สึกอยากใส่ใจตัวเองมากตามไปด้วย อย่างที่หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า "หลังจากคุณกำจัดขยะออกจากบ้านแล้ว คุณจะไม่อยากยัดขยะเข้าร่างกายตัวเองอีก"

ความรกรุงรังทำให้คุณสับสน

เมื่อคุณมีความรกรุงรังล้อมหน้าล้อมหลัง คุณไม่มีทางรู้เลยว่าตัวเองกำลังทำอะไรในชีวิค เมื่อคุณกำจัดมันไปได้ คุณจะเจ็บปวดน้อยลง ความคิดของคุณจะชัดเจนขึ้น และการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตก็จะง่ายขึ้น การอยู่โดยปราศจากความรกรุงรังเป็นทางช่วยที่ดีที่สุดทางหนึ่งในการค้นหาและสร้างชีวิตอย่างที่คุณต้องการ

ความรกรุงรังส่งผลต่อวิธีที่ผู้อื่นปฏิบัติต่อคุณ

คนอื่นจะปฏิบัติต่อคุณในแบบที่คุณปฏิบัติต่อตัวคุณเอง ดังนั้นถ้าคุณเห็นค่าตัวเองและดูแลตัวเองเป็นอย่างดี คนอื่นจะทำดีต่อคุณเช่นกัน แต่ถ้าคุณ "ปล่อยตัว" และปล่อยให้ขยะพอกพูนรอบตัว คุณอาจดึงดูดคนที่ปฏิบัติไม่ดีต่อคุณ เพราะลึก ๆ แล้ว คุณจะรู้สึกว่าคุณไม่สมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านั้น

ถ้าบ้านของคุณไม่เรียบร้อยและรกรุงรัง เพื่อน ๆ อาจชอบคุณที่นิสัยใจคอ แต่อยากที่พวกเขาจะนับถือคุณอย่าวแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็นคนที่มักทำอะไรชักช้า ไม่รู้จักรักษาสัญญาเพราะคุณไร้ระเบียบ ฯลฯ เมื่อคุณจัดการกับบ้านได้ คุณจะปรับปรุงความสัมพันธ์ต่าง ๆ ในชีวิตคุณได้ด้วย

ความรกรุงรังทำให้คุณผัดวันประกันพรุ่ง

ถ้าคุณมีความรกรุงรังมาก คุณมักจะผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ ความรกรุงรังจะทำให้พลังงานของคุณหยุดนิ่ง ซึ่งจะทำให้คุณลงมือทำอะไรได้ยากลำบาก หลังจากขจัดความรกรุงรังเรียบร้อย คุณจะทำให้ตัวเอง (รวมทั้งคนอื่น ๆ !) ต้องประหลาดใจ เพราะคุณจะอยากทำสิ่งที่คุณผัดผ่อนมานาน มีหลายคนที่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาจัดสวนใหม่ ลงเรียนวิชาต่าง ๆ ไปเที่ยวพักผ่อน ฯลฯ จดหมายหลายฉบับที่ฉันได้รับเกี่ยวกับผลของการขจัดความรกรุงรังเพียงข้อนี้ข้อเดียวนั้นน่าทึงมาก !

"สามีของฉันเสียชีวิตไปเมื่อห้าปีที่แล้ว และฉันก็ผัดวันประกันพรุ่งไม่ยอมจัดการกับข้าวของ ๆ เขาเสียที หนังสือของคุณทำให้ฉันกล้าเก็บเสื้อผ้าของเขาและนำไปบริจาค แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนว่ามีสายลมสดชื่นพัดเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่ามันไม่น่าเชื่อด้วยวัยขนาดฉัน (ฉันอายุ 71 ปี) แต่ฉันก็ไปสมัคเข้าวิทยาลัยเพื่อนเรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ และอีกไม่นาน ฉันอาจจะได้เป็นคุณยายไซเบอร์คนแรกของโลก !"

"ระหว่างที่ฉันทำความสะอาดห้องใต้หลังคา ฉันเจอจดหมายของเพื่อนเก่าที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ฉันน้ำตาไหลอาบแก้มเพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าคิดถึงพวกเขามากแค่ไหน และเสียใจที่ขาดการติดต่อกับพวกเขา เล่าสั้น ๆ ก็คือ ฉันเคลียร์ห้องใต้หลังคาแล้วจับเครื่องบินไปหาพวกเขา งานรวมเพื่อนครั้งนั้นวิเศษที่สุด ตอนนี้ฉันเริ่มคิดว่าจะย้ายไปอยู่ที่นั่นจริง ๆ แล้ว"

"ดูเหมือนการขจัดความรกรุงรังได้เข้าไปอยู่ในสายเลือดฉันเสียแล้ว แม้จะโละตู้ใส่ของทุกใบในบ้านแล้ว ฉันก็ยังไม่พอใจ ทุกวันนี้ฉันตื่นแต่ไก่โห่เพื่อจัดการกับสวน เมื่อไหร่ฉันถึงจะหยุดได้ก็ไม่รู้"

ความรกรุงรังทำให้เกิดความขัดแย้ง

ความรกรุงรังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างคนในครอบครัว ผู้ร่วมเช่าห้อง คู่รัก และเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณอยู่อาศัยหรือทำงานท่ามกลางกองขยะ ในขณะที่คนรอบตัวคุณไม่เป็นแบบนั้น วิถีชีวิตของพวกเขาจะไม่ขัดขวางความก้าวหน้าของคุณ แต่วิถีชีวิตของคุณจะขัดขวางความก้าวหน้าของพวกเขาอย่างแน่นอน

ถ้าคุณมีความรู้เรื่องอภิปรัชญา*บ้าง คุณจะเข้าใจว่าคนเหล่านี้ดึงคุณเข้ามาในชีวิตของพวกเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง และคุณเองก็ดึงพวกเขาเข้ามาในชีวิตคุณด้วยเหตุผลบางอย่างเช่นกัน แต่ความรกรุงรังเป็นเหตุผลข้อท้าย ๆ คุณควรกำจัดมันเสีย แล้วคุณก็จะค้นพบเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นว่าทำไมพวกเขาถึงได้เข้ามาอยู่ด้วยกัน ซึ่งน่าสนใจกว่าการทะเลาะกันเรื่องขยะเป็นไหน ๆ !

ความรกรุงรังทำให้คุณอับอาย

คุณอาจจะมาถึงจุดที่บ้านของคุณรกรุงรังจนคุณรู้สึกอับอายที่จะเชิญใครมาที่บ้าน และตื่นตระหนกเมื่อมีคนมาหาโดยไม่บอกล่วงหน้า คุณอยู่กับขยะของคุณคนเดียวได้ก็จริง แต่ทำไมไม่ลองหันมาโละขยะในบ้าน กอบกู้ความนับถือตนเอง แล้วสร้างชีวิตทางสังคมขึ้นใหม่ ด้วยความมั่นใจดูบ้างล่ะ

ความรกรุงรังทำให้ชีวิตของคุณหยุดอยู่กับที่

ฉันพบคู่รักสูงอายุน่ารักคู่หนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังงามขนาดสิบห้าห้องนอน ลูก ๆ ของพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่และย้ายออกจากบ้านไปหมดแล้ว ทั้งคู่มีชีวิตแต่งงานที่อบอุ่นและมีความสุข ก่อนหน้านี้พื้นที่อยู่อาศัยและห้องนอนของลูก ๆ ทุกคน เก็บกวาดเรียบร้อยและได้รับการดูแลอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ห้องนอนของพวกลูก ๆ และห้องอื่น ๆ อีกสามห้องจมอยู่ใต้กองสิ่งของ ห้องหนึ่งดูเหมือนร้านขายของเก่าไม่มีผิด มีของตกแต่งและของกระจุกกระจิกกองเป็นพะเนินเทินทึก อีกห้องนั้นมีกองเสื้อผ้าสูวถึงเอว ส่วนห้องที่สามนั้นมีขยะอื่น ๆ ของพวกเขาและกล่องลังต่าง ๆ ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากคุณป้า ซึ่ง "ต้องคัดแยกด่วน" เมื่อฉันถาม พวกเขาก็ยอมรับว่าอยากเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตด้วยกัน แต่สื่งที่แอบรบกวนจิตใจพวกเขาตลอดเวลา คือห้องที่เต็มไปด้วยขยะพวกนี้ เมื่อใดก็ตามที่พูดถึงเรื่องไปเที่ยว พวกเขาจะตัดสินใจไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าจะจัดการกับขยะพวกนี้ให้เรียบร้อย ผลสุดท้าย ความอับอายเรื่องขยะก็ทำให้พวกเขาต้องอยู่กับบ้านมานานเป็นปี ๆ !

อย่าปล่อยให้ชีวิตของคุณผ่านเลยไป นั่งลงเสียเดี๋ยวนี้ แล้วเขียนทุกสิ่งที่คุณอยากจะทำ ถ้าคุณจัดการกับความรกรุงรังเรียบร้อย และจงใช้มันเป็นแรงบันดาลใจ ให้คุณตั้งหน้าตั้งตาลงมือขจัดความรกรุงรังของตัวคุณเอง

ความรกรุงรังทำให้คุณหดหู่

พลังงานที่หยุดนิ่งรอบ ๆ ความรกรุงรังจะดึงพลังงานของคุณให้ลดลง และทำให้คุณรู้สึกหดหู่ ที่จริงฉันยังไม่เคยพบคนหดหู่คนไหนที่ไม่มีความรกรุงรังรอบตัวเลย ความรกรุงรังจะทำให้คุณยิ่งรู้สึกสิ้นหวัง แต่เราบรรเทาความรู้สึกนั้นได้บ้างโดยการกำจัดความรกรุงรัง เพราะจะเกิดพื้นที่ว่างให้สิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต (ความหดหู่โดยมาก เกิดขึ้นเพราะจิตสำนึกชั้นสูง หรือ Higher Self สั่งให้คุณหยุดทำสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ เพราะถึงเวลาต้องทำอย่างอื่นบ้างแล้ว)

ถ้าคุณหดหู่มากจนคิดถึงเรื่องทำความสะอาดไม่ไหว อย่างน้อยก็ควรยกขยะของคุณขึ้นจากพื้น (คนที่หดหู่มักสุมขยะไว้ที่พื้นผิวระดับต่ำ) ซึ่งจะช่วยยกระดับพลังงานและจิตวิญญาณของคุณด้วย และคุณก็ควรดูแรงดันในพื้นปฐพี หรือ geopathic stress (พลังงานอันตรายที่แผ่รังสีขึ้นมาจากพื้นโลก) ภายในบ้านบ้าง ความรกรุงรังมักจะสะสมตัวอยู่ในบริเวณที่มีแรงดันในพื้นปฐพี ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณเกิดความเครียดได้เช่นกัน

ความรกรุงรังทำให้กระเป๋าเดินทางของคุณมีน้ำหนักเกิน

ถ้าบ้านคุณมีข้าวของรกรุงรังมาก เวลาเดินทางคุณก็คงอยากนำของจำนวนมากติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยเป็นแน่ พวกบ้าหอบฟางมักต้องจ่ายค่าทำเนียมสำหรับกระเป๋าเดินทางที่มีน้ำหนักเกินเพราะหอบของที่ "เผื่อ" ต้องใช้ไปด้วย นี่ยังไม่รวมถึงของที่ระลึกที่ต้องหอบหิ้วกลับบ้านอีก

คนแบบนี้มีแนวโน้มว่าจะมีภาระทางอารมณ์มากเกินไปด้วย คุณเป็นพวกชอบทำเรื่อ่งเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ตีโพยตีพายเกินเหตุ หรือหงุดหงิดเพราะเรื่องขี้ปะติ๋วหรือเปล่า มาหัดทำร่างกายให้เบาสบาย แล้วคุณจะพบว่าตัวเองอารมณ์ดีขึ้น และสนุกกับชีวิตมากขึ้น

ความรกรุงรังทำลายความสามารถด้านประสาทสัมผัส และความสุขในชีวิต

ขณะที่ความรกรุงรังกลบเสียงและบรรยากาศดี ๆ ในบ้านของคุณ มันจะขัดขวางไม่ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ด้วย คุณอาจกลายเป็นคนที่ทำอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ และรู้สึกเหมือนตัวเองมีชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ ทำสิ่งเดิม ๆ วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า คุณอาจจะกลายเป็นคนที่น่าเบื่อจนไม่มีใครอยากรู้จักด้วยซ้ำ การขจัดความรกรุงรังจะช่วยให้แรงบันดาลใจที่สดชื่นพัดเข้ามาในบ้านและในชีวิตของคุณ แม้การย้ายสิ่งของในบ้านนาน ๆ ครั้ง ก็สามารถช่วยทำให้พลังงานสดชื่นขึ้นได้เช่นกัน

การขจัดความรกรุงรังครั้งใหญ่เป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่น่าตื่นเต้น สนุกสนาน และมีความสุข ความรู้สึกเหล่านี้เกิดจากพลังงานปริมาณมากไหลผ่านตัวคุณ แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้ามีสิ่งกีดขวางช่องทางพลังงาน

ความรกรุงรังทำให้คุณต้องทำความสะอาดมากกว่าเดิม

คุณต้องใช้เวลามากกว่าปกติอย่างน้อยสองเท่า เพื่อทำความสะอาดสถานที่ที่มีข้าวของรกรุงรัง ไม่เพียงแค่นั้น คุณยังต้องทำความสะอาดสิ่งของแต่ละชิ้นด้วย ยิ่งมีของมากเท่าใดก็จะยิ่งมีฝุ่นสะสม พลังงานหยุดนิ่งก็ยิ่งมีมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้คุณไม่อยากทำความสะอาดเข้าไปใหญ่ มันเป็นวงจรอุบาทว์ ลองคิดถึงเรื่องสนุก ๆ ที่คุณจะได้ทำ ถ้าคุณขจัดความรกรุงรังออกไปได้ และลดเวลาทำความสะอาดลงได้ครึ่งหนึ่งสิ !

ความรกรุงรังทำให้คุณเป็นคนไร้ระเบียบ

คุณทำกุญแจ แว่นตา หรือกระเป๋าสตางค์ หายบ่อยแค่ไหน มีกี่ครั้งที่คุณหาของบางอย่างไม่เจอจนต้องยอมแพ้ แต่ก็พบมันโดยบังเอิญเมื่อเวลาผ่านไปหลายสัปดาห๋ หรือหลายเดือน หรือไม่อย่างนั้น การออกไปซื้อของชิ้นใหม่มาแทน อาจจะง่ายกว่าเมื่อเทียบกับการหาของที่คุณรู้ว่าตัวเองมี

ความไร้ระเบียบทำให้คุณเสียเวลา ส่งผลให้คุณหงุดหงิด และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลว หลายคนทำตัวไร้ระเบียบติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อประชดชีวิตในวัยเด็ก ที่ถูกพ่อแม่บังคับให้อยู่แต่ในกฎระเบียบ ทว่าการทำเช่นนี้ไปตลอดชีวิตรังแต่จะบ่อนทำลายตัวเอง คุณจะรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจอย่างมาก เมื่อตัดสินใจจัดการกับบ้าน และสิ่งที่คุณอยากทำ แทนที่จะปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังในวัยเด็กครอบงำชีวิตคุณ

ความรกรุงรังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และอาจเป็นเชื้อไฟ

มันอาจรุนแรงถึงขั้นนี้ได้ เมื่อความรกรุงรังเริ่มส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ เริ่มดึงดูดพวกแมลง เริ่มเน่าเสีย ขึ้นรา หรือเริ่มย่อยสลายกลายสภาพในลักษณะต่าง ๆ การเก็บมันไว้จะไม่ดีต่อสุขภาพอนามัยของคุณและเพื่อนบ้าน และสิ่งของบางชิ้นก็อาจเป็นเชื้อไฟได้ด้วย

ถ้าคุณเห็นความสำคัญของสุขภาพและความปลอดภัยของตนเอง และอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านต่อไป จงรีบกำจัดมัน ก่อนที่จะแย่ไปกว่านี้ (เพราะมันคงไม่ดีขึ้นด้วยตัวมันเองแน่นอน !)

ความรกรุงรังทำให้เกิดสัญลักษณ์อันไม่พึงประสงค์

ความรกรุงรังบอกอะไรคุณเป็นนัย ๆ ฮวงจุ้ยสอนให้เราเลือกของตกแต่ง รูปภาพ และภาพถ่าย ที่นำมาประดับบ้านอย่างระมัดระวัง ซึ่งล้วนบ่งบอกถึงบางสิ่งบางอย่าง ฉันทึงมากที่เห็นผู้คนมักยึดติดกับวัตถุที่พวกเขาบอกว่ามีคุณค่าทางใจอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ตัววัตถุนั้นบอกเป็นนัยว่าพวกเขาไม่ต้องการมันอีกแล้ว
ตัวอย่างง่าย ๆ คือ ถ้าคุณยังเป็นโสด และกำลังมองหาคู่ใจ จงทิ้งเครื่องประดับที่ตั้งเดี่ยว ๆ หรือภาพที่ดูอ้างว้างแล้วแทนที่ด้วยสิ่งของที่เป็นคู่หรือรูปคู่รัก ถ้าคุณมักทะเลาะกัน จงอย่ตกแต่งบ้านด้วยสีแดงมากเกินไป ถ้าคุณรู้สึกหดหู่ จงกำจัดสิ่งของที่แขวนห้อยลงมา และแทนที่ด้วยวัตถุที่มีลักษณะพุ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับพลังงานของคุณ

ความรกรุงรังส่งผลต่อการเงินของคุณ
การเก็บของพวกนี้ไว้ ทำให้คุณเสียเงินไปเท่าไหร่กันแน่ บางครั้งขณะที่เหตุผลทั้งหมดไม่สามารถชักจูงให้คนเราขจัดขยะได้ แต่เหตุผลง่าย ๆ อย่างเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ก็ช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความรกรุงรังในบ้านของตนเอง

มาลองคำนวณกัน เข้าไปสำรวจห้องทุกห้องในบ้านของคุณ และประเมินดูว่าข้าวของที่คุณแทบไม่ได้ใช้หรือไม่เคยได้ใช้ กินพื้นที่ห้องไปกี่เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างที่ทำ ขอให้คุณซื่อสัตย์กับตัวเอง ถ้าคุณต้องการความจริงแบบแจ่มแจ้ง ให้รวมสิ่งที่คุณไม่ได้รักสุดขีด หรือไม่ได้ใช้เลยในช่วงปีที่ผ่านมาเข้าไปด้วย หรือถ้าจะให้เบาลงหน่อย ก็ขยายเวลาออกไปเป็นสองหรือสามปี ถ้าบ้านของคุณมีขนาดกลาง
สิ่งที่คุณจดลงกระดาษอาจจะมีหน้าตาแบบนี้
1. โถงทางเข้า 5%
2. ห้องนั่งเล่น 10%
3. ห้องรับประทานอาหาร 10%
4. ห้องครัว 30%
5. ห้องนอน 1 40%
6. ห้องนอน 2 25%
7. ห้องเก็บของ 100%
8. ห้องน้ำ 15%
9. ห้องใต้ดิน 90%
10.ห้องใต้หลังคา 100%
11.เพิงเก็บของในสวน 60%
12.โรงรถ 80%
ความรกรุงรังทั้งหมด 565%

คราวนี้ก็หารด้วยจำนวนห้องทั้งหมด
565% หารด้วยห้อง 12 ห้อง = โดยเฉลี่ยมีขยะ 47% ต่อห้อง !

ดังนั้นจากตัวอย่างนี้ ค่าใช้จ่ายในการเก็บความรกรุงรังอย่างคร่าว ๆ คือประมาณ 47% ของค่าเช่าบ้านหรือค่จำนองบ้านคุณ ฉันขอแนะนำให้คุณคำนวณค่าใช้จ่ายของคุณเองเดี๋ยวนี้เลย
บางทีอาจถึงขั้นที่ว่า คุณมีข้าวของมากมายล้นบ้านจนต้องจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บของแยกต่างหากเป็นพิเศษ เจ้าของกิจการคลังเก็บของเหล่านี้ รายงานว่าธุรกิจด้านนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถ้าคุณอยู่ในตัวเมืองและต้องการเช่าห้องเก็บของที่ปลอดภัย คุณจำเป็นต้องจองล่วงหน้าหลายเดือน นี่เป็นการที่ใช้เงินคุ้มค่าแล้วหรือ คุณไม่อยากใช้เงินเพื่อซื้อสิ่งอื่นมากกว่าหรือ

นอกจากนี้ความรกรุงรังยังสร้างความเสียหายให้คุณได้อีกหลายทาง คุณต้องเสียเวลาหาซื้อ และยังต้องหาที่วางเมื่อกลับมาถึงบ้าน บ่อยครั้งที่คุณต้องเสียเงินซื้อสิ่งที่ไว้ใช้เก็บของเหล่านั้นด้วย อย่างเช่นกล่องเก็บของ ชั้นวางของ ตู้ใส่ของ ลิ้นชัก ตู้เก็บเอกสาร หีบ หรือในกรณีที่แย่กว่านั้นคือ ต้องต่อเติมหลังบ้านเพิ่ม สร้างเพิงเก็บของในสวน ปูพื้นในห้องใต้หลังคา หรือสร้างโรงรถเพิ่มอีกโรง นอกจากนี้ยังมีค่าทำความสะอาด ค่าดูแลรักษาให้อยู่ในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ป้องกันไม่ให้ถูกสภาพอากาศและสัตว์สร้างความเสียหาย และค่าขนย้ายเมื่อต้องย้ายบ้าน คุณอาจต้องทำประกันและติดตั้งระบบป้องกันความปลอดภัยให้กับข้าวของเหล่านั้นด้วย สุดท้ายแล้วคุณจะเสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย และอารมณ์ ไปกับการกำจัดมัน เมื่อคุณคิดได้ในที่สุด นี่มันคุ้มแล้วจริง ๆ หรือ

บ่อยครั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นมานี้ มีราคาสูงกว่าของชิ้นนั้น ๆ เสียอีก ลองคิดดูสิ คุณเสียทั้งเงินทั้งเวลา และลงแรงเพื่อซื้อสิ่งของที่ไม่มีวันที่คุณได้ใช้ แล้วยังต้องมาเสียเงินเพื่อเก็บมันไว้นานเป็นโกฏิปี โดยไม่จำเป็นอีกด้วย !

ความรกรุงรังดึงความสนใจคุณจากสิ่งที่สำคัญจริง ๆ

คุณเป็นเจ้าของมัน หรือมันเป็นเจ้าของคุณกันแน่ ข้าวของทุกอย่างที่คุณเป็นเจ้าของ ต้องการความสนใจจากคุณ ยิ่งคุณมีสิ่งของรกรุงรังมากเท่าใด พลังงานของคุณก็จะยิ่งยึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากเท่านั้น เหมือนอย่างหัวข้อที่แล้วกล่าวไว้ สิ่งของทุกอย่างต้องการการดูแลเอาใจใส่ในแบบต่าง ๆ เมื่อคุณขจัดความรกรุงรังออกไป คุณจะมีอิสระพอจะคิดถึงสิ่งสำคัญ ๆ ในชีวิต แทนที่จะจมปลักกับรายละเอียดเรื่องการบำรุงรักษาข้าวของต่าง ๆ ตลอดเวลา




ถ้าคุณเข้าใจว่า ความรกรุงรังส่งผลต่อคุณอย่างไร คุณจะเห็นมันในแง่มุมใหม่ และจะตัดสินใจได้ว่าอยากเก็บมันไว้หรือไม่ สิ่งสำคัญที่จะช่วยคุณตัดสินใจได้คือ คุณต้องเข้าใจว่าทำไมคุณถึงสะสมความรกรุงรังไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งเราจะกล่าวถึงเรื่องนี้ในบทต่อไป